"ลี้" เป็นอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดลำพูน เมื่อก่อนการเดินทางขึ้นเหนือต้องใช้เส้นทางสาย เถิน-ลี้ เข้าจังหวัดลำพูนเพื่อไปต่อยังจังหวัดอื่นๆ ซึ่งทางค่อนข้างคดเคี้ยวตัดเขา มักมีข่าวอุบัติเหตุให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อมีการทำถนนหลวงหมายเลข1 "ลี้" ก็เหมือนอำเภอที่ถูกลืม ทำให้เราเลือกที่นี่เป็นจุดหมายของทริปนี้
กะว่าจะออกเดินทางตั้งแต่หกโมงเช้า แต่กว่าจะเอื้อนจะอี้ก็ปาเข้าไปแปดโมง ถ้าตรงไปลี้เลยก็ไม่ใช่สไตล์เรา เพราะงั้นเราจะขึ้นไปเที่ยวลำปางกันก่อนเลย ไหนๆก็ขึ้นเหนือมาแล้วเนอะ ถึงลำปางก็ห้าโมงเย็นพอดี เข้าที่พักวางกระเป๋า ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว 555++ ป่ะ!!ไปเดินเล่นกัน
ถนนคนเดิน "กาดกองต้า" ตั้งอยู่ถนนเส้นชุมชนเก่า จากตัวเมืองมายังถนนรัษฎา ข้ามสะพานรัษฎาภิเษกมาก็จะถึงกาดพอดี ขอบอกว่าถ้ามาเสาร์-อาทิตคนจะเยอะครึ้กครื้นมาก แต่ถ้าอยากเห็นสถาปัตยกรรมเก่าๆขอแนะนำให้มาวันธรรมดา ...เดินเพลินจนลืมดูเวลาเลย ก็แหม!! ทั้งของกินทั้งของที่ระลึกละลานตาไปหมด ว่าแล้วก็กลับไปนอนเอาแรงดีกว่า พรุ่งนี้จะไปเที่ยวกันต่อที่ตัวเมืองลำพูนเน้อ
ได้เวลาไปหาพระเอกของทริปนี้แล้ว เวลาก็ปาเข้าไปสี่โมงเย็นระยะทางจากตัวเมืองลำพูนไปลี้ก็อีก106 กิโลเมตร ครั้งนี้เราจองที่พักไว้ก่อน ที่ลี้มีที่พักไม่กี่แห่ง "บ้านไพลิน" เราเลือกพักที่นี่ รีสอร์ทพึ่งเปิดได้ปีกว่าๆเอง ราคาเบาๆ 750 บาท ต่อคืน เราพักที่นี่สองคืนรวดดดด!!
วันที่สาม : วันนี้เราจะไปอุทยานแห่งชาติแม่ปิงกัน ค่าเข้าอุทยานคนละ 10 บาท รถยนต์ 30 บาท เจ้าหน้าที่ที่นี่น่ารักมาก ให้คำแนะนำกับเราว่าเราสามารถไปเที่ยวที่ไหนได้บ้างในอุทยาน ซึ่งแต่ละแห่งจะห่างจากจุดทำการอุทยานเกือบ20โล เพราะงั้นต้องใช้เวลาในการไปในแต่ละจุด ซึ่งเราก็เป็นพวกที่บริหารเวลาได้ดี..ได้ดีมากจริงๆ 555+++
จุดแรกที่เราจะไปต้องบอกว่าเป็นที่ๆมีทัศนียภาพที่สวยงามมากทีเดียว เห็นแล้วต้องร้อง ว้าววว!! ดังๆ นั่นก็คือ "แก่งก้อ" อยู่ห่างที่ทำการอุทยาน 23 โล นอกจากวิวจะสวยแล้ว ยังล่องเรือเที่ยวได้อีกด้วยน่ะ ไฮไลท์ของการล่องเรือที่นี่ก็คือ โรงเรียนเรือนแพ (ใครคิดถึงวิทยาบ้างงง555) แต่เราอด!!..เพราะเกือบบ่ายแล้วเดี๋ยวจะเที่ยวที่อื่นไม่ทัน ถ้าใครอยากล่องเรือต้องมาช่วงเช้าแดดไม่ร้อน ใช้เวลาในการล่องประมาณ 2 ชม. แต่เราแค่เห็นวิว ก็ปลื้มแล้ววววว!!
ชื่นชมกับบรรยากาศจนหนำใจแล้ว ก็ไปชุ่มฉ่ำกันต่อเลยดีกว่าเนอะ "น้ำตกก้อหลวง" ห่างจากจุดทำการ 22 โล ถนนลาดยางสามารถขับรถไปได้ เดินเท้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตก ถ้ามาช่วงฤดูหนาวจะเห็นสีของน้ำตกเป็นสีเขียวมรกตเลยแหละ แต่เรามาเร็วไปนิดนึง ว๊า!! เสียดายแต่ไม่เสียใจ...ไว้ต้องมาอีกรอบ
ทุ่งกิ๊ก ห่างจากจุดทำการอุทยาน 14 โล ทุ่งกิ๊กก็หมายถึงทุ่งกว้างๆนั่นแหละ เป็นที่สำหรับกางเต้นท์ เหมาะกับนักดูนกเลย เพราะที่นี่จะพบเห็นนกได้ง่าย ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ เช่น เก้ง หมูป่า กระต่ายป่า ระหว่างทางที่มาอาจพบเจอช้างป่าได้ด้วยสังเกตุจากขี้ช้างที่เราเห็นบนถนน 555+++ จะว่าไปก็เหมือนสนามหญ้าหน้าบ้านเราเลยเนอะ แต่ที่ต่างกันก็คือ เราจะได้เห็นสัตว์ป่าได้แบบใกล้ชิดสนิทเนื้อกันเลยที่เดียวล่ะค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!!
ถนนคนเดิน "กาดกองต้า" ตั้งอยู่ถนนเส้นชุมชนเก่า จากตัวเมืองมายังถนนรัษฎา ข้ามสะพานรัษฎาภิเษกมาก็จะถึงกาดพอดี ขอบอกว่าถ้ามาเสาร์-อาทิตคนจะเยอะครึ้กครื้นมาก แต่ถ้าอยากเห็นสถาปัตยกรรมเก่าๆขอแนะนำให้มาวันธรรมดา ...เดินเพลินจนลืมดูเวลาเลย ก็แหม!! ทั้งของกินทั้งของที่ระลึกละลานตาไปหมด ว่าแล้วก็กลับไปนอนเอาแรงดีกว่า พรุ่งนี้จะไปเที่ยวกันต่อที่ตัวเมืองลำพูนเน้อ
วันที่สอง : เก้าโมงกว่าได้เวลาออกจากที่พักแล้ว ก่อนที่เราจะเข้าลำพูน ไปแวะ "วัดพระธาตุลำปางหลวง" กันก่อน ถ้ามาถึงเมืองเขลางค์นครแล้ว ห้ามพลาดเด็ดขาด!! เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวลำปางให้ความศรัทธาน่ะ แล้วยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลูด้วย
ขอพรพระธาตุแล้วก็ไปต่อกันเลยที่ลำพูน มาลำพูนก็ต้องกินลำไย ใช่ป่ะ!! ตามคำขวัญงัย "พระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวีศรีหริภุญไชย" ถึงลำพูนสิบเอ็ดโมงกว่าๆได้เวลามื้อเที่ยงพอดี 555++
ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย ชื่อดังของที่นี่เขาเลย มาง่ายไม่ยาก มาถึงวัดพระธาตุหริภุญไชยก็จอดรถไว้บริเวณวัดได้เลย ข้ามมาฝั่งตรงข้ามจะเป็น "กาดขัวมุง" เป็นที่ๆขายของที่ระลึกที่ตั้งอยู่บนสะพาน เดินตรงมาสุดสะพานเลยน่ะ ร้านอยู่ทางซ้ายมือ
ของคาวจบก็ต้องต่อด้วยของหวาน อันนี้ไม่ใช่ลำไยล่ะแต่เป็น"เฉาก๋วยนมสด" เชื่อคำโฆษณาของพี่เขา "อร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์" อืมมมม!! อร่อยจริงน่ะ ....อยู่ตรงข้ามหน้าวัดเลย
ได้เวลาไปหาพระเอกของทริปนี้แล้ว เวลาก็ปาเข้าไปสี่โมงเย็นระยะทางจากตัวเมืองลำพูนไปลี้ก็อีก106 กิโลเมตร ครั้งนี้เราจองที่พักไว้ก่อน ที่ลี้มีที่พักไม่กี่แห่ง "บ้านไพลิน" เราเลือกพักที่นี่ รีสอร์ทพึ่งเปิดได้ปีกว่าๆเอง ราคาเบาๆ 750 บาท ต่อคืน เราพักที่นี่สองคืนรวดดดด!!

วันที่สาม : วันนี้เราจะไปอุทยานแห่งชาติแม่ปิงกัน ค่าเข้าอุทยานคนละ 10 บาท รถยนต์ 30 บาท เจ้าหน้าที่ที่นี่น่ารักมาก ให้คำแนะนำกับเราว่าเราสามารถไปเที่ยวที่ไหนได้บ้างในอุทยาน ซึ่งแต่ละแห่งจะห่างจากจุดทำการอุทยานเกือบ20โล เพราะงั้นต้องใช้เวลาในการไปในแต่ละจุด ซึ่งเราก็เป็นพวกที่บริหารเวลาได้ดี..ได้ดีมากจริงๆ 555+++
จุดแรกที่เราจะไปต้องบอกว่าเป็นที่ๆมีทัศนียภาพที่สวยงามมากทีเดียว เห็นแล้วต้องร้อง ว้าววว!! ดังๆ นั่นก็คือ "แก่งก้อ" อยู่ห่างที่ทำการอุทยาน 23 โล นอกจากวิวจะสวยแล้ว ยังล่องเรือเที่ยวได้อีกด้วยน่ะ ไฮไลท์ของการล่องเรือที่นี่ก็คือ โรงเรียนเรือนแพ (ใครคิดถึงวิทยาบ้างงง555) แต่เราอด!!..เพราะเกือบบ่ายแล้วเดี๋ยวจะเที่ยวที่อื่นไม่ทัน ถ้าใครอยากล่องเรือต้องมาช่วงเช้าแดดไม่ร้อน ใช้เวลาในการล่องประมาณ 2 ชม. แต่เราแค่เห็นวิว ก็ปลื้มแล้ววววว!!
ชื่นชมกับบรรยากาศจนหนำใจแล้ว ก็ไปชุ่มฉ่ำกันต่อเลยดีกว่าเนอะ "น้ำตกก้อหลวง" ห่างจากจุดทำการ 22 โล ถนนลาดยางสามารถขับรถไปได้ เดินเท้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตก ถ้ามาช่วงฤดูหนาวจะเห็นสีของน้ำตกเป็นสีเขียวมรกตเลยแหละ แต่เรามาเร็วไปนิดนึง ว๊า!! เสียดายแต่ไม่เสียใจ...ไว้ต้องมาอีกรอบ

เดินขึ้นน้ำตก 500 เมตร ก็เล่นเอาหอบเหมือนกันน่ะ 555++....ที่สุดท้ายของเรา แค่ได้ยินชื่อก็กระตุกต่อมอยากรู้อยากเหนแล้ว .....
ทุ่งกิ๊ก ห่างจากจุดทำการอุทยาน 14 โล ทุ่งกิ๊กก็หมายถึงทุ่งกว้างๆนั่นแหละ เป็นที่สำหรับกางเต้นท์ เหมาะกับนักดูนกเลย เพราะที่นี่จะพบเห็นนกได้ง่าย ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ เช่น เก้ง หมูป่า กระต่ายป่า ระหว่างทางที่มาอาจพบเจอช้างป่าได้ด้วยสังเกตุจากขี้ช้างที่เราเห็นบนถนน 555+++ จะว่าไปก็เหมือนสนามหญ้าหน้าบ้านเราเลยเนอะ แต่ที่ต่างกันก็คือ เราจะได้เห็นสัตว์ป่าได้แบบใกล้ชิดสนิทเนื้อกันเลยที่เดียวล่ะค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!!
อช.แม่ปิงยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายที่น่ะ แต่สำหรับแค่ 3 ที่ก็ถือว่าคุ้มแล้ว ..ได้เห็นในสิ่งที่อยากเห็น ได้เห็นในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น.. เราใช้เวลากันทั้งวันจนเย็นย่ำ ได้เวลากับที่พักแล้ว .....
วันสุดท้ายของทริปแล้วหล่ะ ก่อนกลับขอแวะไปเที่ยวบ้านห้วยต้มซะหน่อย อยู่ระหว่างเส้นทางไปเถินไม่ไกลจากตัวเมืองลี้ เป็นหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ ถ้ามา "วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม" ก็จะผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน เราตั้งใจจะไปกินก๋วยเตี๋ยวกัน รสชาตใช้ได้เลย เจ๋งอ่ะ!!
วันที่เรามาเป็นวันที่ชาวปกาเกอะญอมีงานรำลึกครูบาวงศา ซึ่งเป็นผู้ที่ชาวปกาเกอะญอเลื่อมใส ศพของครูบาวงศาซึ่งไม่เน่าเปื่อยประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วภายในวิหาร ...
....ได้เวลากลับบ้านแล้วซิน่ะ....
เส้นทางกลับกรุงเทพ เราต้องผ่านถนนสายลี้-เถิน โค้งคดเคี้ยวทำเอาเวียนหัวกันเลยทีเดียว โค้งส่วนใหญ่จะเป็นโค้งหักศอก เส้นนี้รถใหญ่วิ่งเยอะมาก ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหนก็สามารถเกิดอุบัติเหตุได้เสมอหากเราประมาท....
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้น่ะค่ะ ทริปหน้าจะไปไหนดีน๊าาาา
...เที่ยวเมืองไทยไปพร้อมๆกับเราน่ะค่ะ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น