วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

รีวิว : หาดนางรอง ทะเลสวยในค่ายทหาร @สัตหีบ





เมื่อร่างกายต้องการทะเล แต่ดั๊นมีเวลาน้อยน่ะสิ ทะเลที่ใกล้ๆ น้ำทะเลสวยๆ ที่ไหนดีน๊าาา......และแล้ว..."สัตหีบ"....... ก็ผุดขึ้นมาพร้อมกับต่อมมโน ลมพัดเอื่อยๆ น้ำทะเลใสๆ ทรายนุ่มๆ...โอ๊ย!!..จะรออะไรอยู่หล่ะ...

.....หาดนางรอง คือจุดหมายปลายทางของเรา.....

"ขึ้นชื่อว่าหาดนางรอง...แต่ความสวยระดับนางเอกเชียวน่ะ" เห็นแล้วไม่หลงรักได้งัยละคร๊ะ!! ทะเลสวยน้ำใสไม่แพ้ชายหาดทางอันดามันเล้ย..(นี่!คุยซ๊าาาา) แต่นี่แค่สัตหีบใกล้กรุงเทพแค่เนี้ยะ ไปวันเดียวก็ได้ แต่ใครพอมีเวลาจะพักสักคืน ไม่ว่ากันอยู่แล้ว จะสวยสมกับที่เกริ่นยาวววววรึเปล่า มาเล้ยยย!!มาเที่ยวด้วยกัน




หาดนางรอง ตั้งอยู่ในส่วนของท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ มาทางเดียวกับหาดนางรำ จะว่าไปก็คล้ายกับหาดเดียวกันนั่นแหละ มีเพียงแหลมหินกั้นระหว่างหาด หาดนางรำจะครึกครื้นไปด้วยนักท่องเที่ยว ส่วนหาดนางรอง ค่อนข้างที่จะสงบเงียบกว่า





บรรยากาศยามบ่ายแก่ๆ


บริเวณหาดนางรองจะไม่มีร้านอาหารเหมือนหาดนางรำ จะมีเพียงร้านกาแฟสดเล็กๆตั้งอยู่หน้าหาด แต่ไม่ต้องกลัวอดน่ะจ๊ะคู๊ณณ พอจอดรถปุ๊บ ก็จะมีร้านอาหารมาแจกใบเมนูอาหาร บริการส่งกันถึงที่เลย ราคาก็เท่าๆกันทุกร้านจร้าาาา




ร้านกาแฟสดริมหาด


ภายในร้านกาแฟสด มีของขายเล็กๆน้อยๆ เหมือนมินิมาร์ทย่อมๆ..มีหลายสิ่งให้เราเลือกสรร..ของใช้ น้ำดื่ม น้ำแข็ง ก็ซื้อได้ที่นี่ ขนมกรุบกรอบ หรือแม้แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็จัดได้ที่นี่เลย อิอิ!!


มาดูบรรยากาศตอนเย็นกันดีกว่า เพิ่มความโรแมนติกกับพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แต่ต้องระวัง ยุง!! น่ะ ชุมมากกก ดักซุ่มโจมตีแบบไม่ให้เราตั้งตัว มารู้อีกทีตุ่มมาเต็มมมม เฮ้อ!!!ทำกันได้ลง??






เย็นแล้ว!!เข้าที่พักกันดีกว่า ถ้าใครอยากพัก ที่หาดก็มีที่พักให้น่ะ "บ้านพักรับรองบ้านดิน รีสอร์ท" ราคาเริ่มที่ 1200-3000บาท สำหรับบุคคลทั่วไป ยังมีบริการเต้นท์ให้เช่าด้วย ราคา 200-500 บาท แต่!!!ประกอบอาหารไม่ได้น่ะจ๊ะ อ้อ!!อีกอย่างที่นี่ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักจร้าาา


มาสำรวจรอบๆบ้านพักกันก่อนดีกว่าเนอะ...


สามารถนำรถเข้าไปจอดข้างๆตัวบ้านได้เลย







บ้านพักแต่ละหลังอยู่ไม่ติดกันเกินไป ..อันนี้ชอบมาก... ค่อนข้างเป็นส่วนตัวดี...




บ้านพักลักษณะคล้ายเห็ด...หน้าบ้านพักแต่ละหลังจะมีโต๊ะม้าหินตั้งไว้หน้าบ้าน นั่งสังสรรค์กันหน้าบ้านพักได้เลย ....มีข้อควรปฎิบัติ!!!ห้ามเคลื่อนย้ายโต๊ะม้าหิน ปรับ1000บาท..... เอาละสิ!!! 555+





สีเขียวของสนามหญ้าทำให้สบายตาและร่มรื่นมากด้วย



เราไปสำรวจภายในห้องพักกันต่อดีกว่า ภายในห้องพักไม่ถึงกับหรูหรามาก อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เครื่องอำนวยความสะดวกมีครบ...แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น...มีเหมือนกันทุกหลัง อ้อ!!บ้านพักมีทั้งแบบห้องน้ำในตัวกับห้องน้ำรวมน๊าาาา





มีครีมอาบน้ำพร้อมยาสระผมให้เหมือนโรงแรมทั่วไป..น้ำแรงใช้ได้ บางที่พักน้ำไหลอ่อนมาก...จะอาบน้ำทียืนจนเมื่อยตุ้ม (ถ้ารู้ก่อนต้องเตรียมถังไปลองน้ำอาบ 555+)






ภายในห้องมีเก้าอี้ไว้ให้ 1 ชุด มีทีวี + ตู้เย็น มีน้ำให้ 2 ขวด มีบริการ wifi ให้ด้วย แต่สัญญาณไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ ต้องไปใช้แถวร้านกาแฟสด



ดึกแล้ว!!นอนดีกว่าเนอะ เดี๋ยวพรุ่งนี่ไปเก็บบรรยากาศยามเช้าก่อนกลับกัน.....


บรรยากาศริมทะเลตอนเช้าๆสดชื่นดีเลยหล่ะ!! สูดลมหายใจให้เต็มปอด รู้สึกโล่ง สบาย มากๆๆ....มิน่าหล่ะ!!คนที่อกหัก มีเรื่องกลุ้มใจ ถึงชอบมาทะเล....พอๆหยุดๆอย่าเพ้อ!!..มาดูบรรยากาศกันต่อดีกว่าเนอะเดี๋ยวจะเตลิดไปกันใหญ่ 555+






น้ำใส..สวย..สะอาด..น่ะค่ะ!!เห็นแล้วอยากจะกระโจนลงเล่นน้ำคุณอาจจจ..อดใจไว้ไม่อยู่...อ๊ะ!พูดจริง...





ทิวสนริมหาดช่วยบังแดดได้เป็นอย่างดี แค่มีเสื่อสักผืนก็นั่งปิ๊กนิคได้แล้ว ถ้าใครไม่ได้นำเสื่อมา ที่หาดก็มีเสื่อให้เช่าน่ะค่ะ





เป็นข้อดีอย่างนึงที่เลือกพักที่หาด เพราะช่วงเช้าๆยังไม่มีใครเข้ามาเที่ยว....เสมือนหาดนี้เป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว!!....ฮ้าฮ้า!!






ด้านหลังป้ายคือส่วนที่ทางบ้านพักขอไว้สำหรับผู้ที่เข้าพัก ถ้าเข้าพักที่นี่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่นั่งริมหาด..สบาย!..สบาย!..





ถึงจะเป็นชาดหาดอ่าวไทย แต่น้ำทะเลก็สวยใสไม่แพ้ใครเลยน๊าาา







ทรายละเอียดเดินแล้วนุ่มเท้าดีจริง เหมือนกับที่มโนไว้ก่อนมา ไม่ผิดหวังเลยคร๊ะ!! เชื่อเถอะ!!พูดจริง..





ปิดท้ายด้วยภาพหาดทราย อยากให้เห็นความละเอียดและสีของเม็ดทรายชัดๆ...ทั้งขาวทั้งละเอียด นั่งยันเลยว่าสวยจริง...ไม่ได้โม๊!!





เผื่อใครอ่านรีวิวแล้ว อยากไปวิ่งเล่นกับปูลม นอนชมทะเล ...ที่หาดนางรอง ตามมาทางนี้เลย....มีไรจะบอก...เส้นทางไปหาดนางรองมี 2 เส้นทางน่ะ


1.จากพัทยาใช้เส้นสุขุมวิท ไปทางอำเภอสัตหีบ เมื่อผ่านสี่แยกไฟแดงหมู่บ้านนาวีเฮ้าส์ จะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไปอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช ให้ยูเทริน์รถกลับ แล้วเลี้ยวซ้ายตรงสวนหย่อม สังเกตป้ายอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 แล้ววิ่งตรงไปทางเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ เกือบสุดทาง ซ้ายมือมีป้ายเข้าหาดนางรำ วิ่งผ่านหาดนางรำเข้าไปจนสุดทาง จะเป็นหาดนางรอง


2.จากกรุงเทพ ให้ใช้เส้นทางหมายเลข 331 (ชลบุรี-สัตหีบ) เมื่อถึงสี่แยกตัดเข้าเส้นสุขุมวิท ให้วิ่งตรงไปทางสนามบินอู่ตะเภา วิ่งเกือบสุดทาง ซ้ายมือมีป้ายเข้าหาดนางรำ วิ่งตามทางเข้าหาด วิ่งผ่านไปจนสุดหาดนางรำ จะเป็นหาดนางรอง


...ถ้านำรถยนต์ส่วนตัวมา เสียค่าบำรุงคันละ 20 บาท...





...เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม ฉันเก็บเอาไว้ให้เธอ
และจะเป็นเช่นนั้นเสมอ....



ปิดท้ายทริปกับภาพๆนี้ ธรรมชาติสร้างสิ่งสวยงามให้เรามากมาย อย่าทำลายด้วยมือของเราเลยน่ะค่ะ....





ถ้าใครอยากจะมาเอนกาย ปล่อยใจ ที่หาดสักคืน อ่ะ!!ดูทางนี้
บ้านพักรับรองบ้านดิน หาดนางรอง เบอร์โทร 088-4472461
www.facebook.com/banpakhadnanglong




ขอขอบคุณข้อมูลการเดินทางจาก http://www.pattayaconciergo.com




แล้วไปเที่ยวด้วยกันในทริปต่อๆไปน่ะค่ะ

กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพพร้อมความอิ่มเอมใจ































วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

รีวิว "ลี้" เมืองน่ารักที่ไม่อยากให้...ลี้ลับ

    "ลี้" เป็นอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดลำพูน เมื่อก่อนการเดินทางขึ้นเหนือต้องใช้เส้นทางสาย เถิน-ลี้ เข้าจังหวัดลำพูนเพื่อไปต่อยังจังหวัดอื่นๆ  ซึ่งทางค่อนข้างคดเคี้ยวตัดเขา มักมีข่าวอุบัติเหตุให้เห็นอยู่บ่อยๆ  แต่เมื่อมีการทำถนนหลวงหมายเลข1  "ลี้" ก็เหมือนอำเภอที่ถูกลืม ทำให้เราเลือกที่นี่เป็นจุดหมายของทริปนี้
 
 
 
 
......เริ่มกันเลยดีกว่ามั้ย??......
 
 
กะว่าจะออกเดินทางตั้งแต่หกโมงเช้า แต่กว่าจะเอื้อนจะอี้ก็ปาเข้าไปแปดโมง ถ้าตรงไปลี้เลยก็ไม่ใช่สไตล์เรา เพราะงั้นเราจะขึ้นไปเที่ยวลำปางกันก่อนเลย ไหนๆก็ขึ้นเหนือมาแล้วเนอะ ถึงลำปางก็ห้าโมงเย็นพอดี เข้าที่พักวางกระเป๋า ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว 555++ ป่ะ!!ไปเดินเล่นกัน




ถนนคนเดิน "กาดกองต้า" ตั้งอยู่ถนนเส้นชุมชนเก่า จากตัวเมืองมายังถนนรัษฎา ข้ามสะพานรัษฎาภิเษกมาก็จะถึงกาดพอดี ขอบอกว่าถ้ามาเสาร์-อาทิตคนจะเยอะครึ้กครื้นมาก แต่ถ้าอยากเห็นสถาปัตยกรรมเก่าๆขอแนะนำให้มาวันธรรมดา ...เดินเพลินจนลืมดูเวลาเลย ก็แหม!! ทั้งของกินทั้งของที่ระลึกละลานตาไปหมด ว่าแล้วก็กลับไปนอนเอาแรงดีกว่า พรุ่งนี้จะไปเที่ยวกันต่อที่ตัวเมืองลำพูนเน้อ


 
 


วันที่สอง : เก้าโมงกว่าได้เวลาออกจากที่พักแล้ว ก่อนที่เราจะเข้าลำพูน ไปแวะ "วัดพระธาตุลำปางหลวง" กันก่อน  ถ้ามาถึงเมืองเขลางค์นครแล้ว ห้ามพลาดเด็ดขาด!! เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวลำปางให้ความศรัทธาน่ะ แล้วยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลูด้วย
 
ขอพรพระธาตุแล้วก็ไปต่อกันเลยที่ลำพูน มาลำพูนก็ต้องกินลำไย ใช่ป่ะ!! ตามคำขวัญงัย "พระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวีศรีหริภุญไชย" ถึงลำพูนสิบเอ็ดโมงกว่าๆได้เวลามื้อเที่ยงพอดี 555++
 
 
 
 
 
 
 
 
ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย ชื่อดังของที่นี่เขาเลย มาง่ายไม่ยาก มาถึงวัดพระธาตุหริภุญไชยก็จอดรถไว้บริเวณวัดได้เลย ข้ามมาฝั่งตรงข้ามจะเป็น "กาดขัวมุง" เป็นที่ๆขายของที่ระลึกที่ตั้งอยู่บนสะพาน เดินตรงมาสุดสะพานเลยน่ะ ร้านอยู่ทางซ้ายมือ
 
ของคาวจบก็ต้องต่อด้วยของหวาน อันนี้ไม่ใช่ลำไยล่ะแต่เป็น"เฉาก๋วยนมสด" เชื่อคำโฆษณาของพี่เขา "อร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์" อืมมมม!! อร่อยจริงน่ะ ....อยู่ตรงข้ามหน้าวัดเลย




ได้เวลาไปหาพระเอกของทริปนี้แล้ว เวลาก็ปาเข้าไปสี่โมงเย็นระยะทางจากตัวเมืองลำพูนไปลี้ก็อีก106 กิโลเมตร ครั้งนี้เราจองที่พักไว้ก่อน ที่ลี้มีที่พักไม่กี่แห่ง "บ้านไพลิน" เราเลือกพักที่นี่ รีสอร์ทพึ่งเปิดได้ปีกว่าๆเอง ราคาเบาๆ 750 บาท ต่อคืน เราพักที่นี่สองคืนรวดดดด!!




วันที่สาม : วันนี้เราจะไปอุทยานแห่งชาติแม่ปิงกัน ค่าเข้าอุทยานคนละ 10 บาท รถยนต์ 30 บาท เจ้าหน้าที่ที่นี่น่ารักมาก ให้คำแนะนำกับเราว่าเราสามารถไปเที่ยวที่ไหนได้บ้างในอุทยาน ซึ่งแต่ละแห่งจะห่างจากจุดทำการอุทยานเกือบ20โล เพราะงั้นต้องใช้เวลาในการไปในแต่ละจุด ซึ่งเราก็เป็นพวกที่บริหารเวลาได้ดี..ได้ดีมากจริงๆ 555+++




จุดแรกที่เราจะไปต้องบอกว่าเป็นที่ๆมีทัศนียภาพที่สวยงามมากทีเดียว เห็นแล้วต้องร้อง ว้าววว!! ดังๆ นั่นก็คือ "แก่งก้อ" อยู่ห่างที่ทำการอุทยาน 23 โล นอกจากวิวจะสวยแล้ว ยังล่องเรือเที่ยวได้อีกด้วยน่ะ ไฮไลท์ของการล่องเรือที่นี่ก็คือ โรงเรียนเรือนแพ (ใครคิดถึงวิทยาบ้างงง555) แต่เราอด!!..เพราะเกือบบ่ายแล้วเดี๋ยวจะเที่ยวที่อื่นไม่ทัน ถ้าใครอยากล่องเรือต้องมาช่วงเช้าแดดไม่ร้อน ใช้เวลาในการล่องประมาณ 2 ชม. แต่เราแค่เห็นวิว ก็ปลื้มแล้ววววว!!


 
 
 
 
 

ชื่นชมกับบรรยากาศจนหนำใจแล้ว ก็ไปชุ่มฉ่ำกันต่อเลยดีกว่าเนอะ "น้ำตกก้อหลวง" ห่างจากจุดทำการ 22 โล ถนนลาดยางสามารถขับรถไปได้ เดินเท้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตก ถ้ามาช่วงฤดูหนาวจะเห็นสีของน้ำตกเป็นสีเขียวมรกตเลยแหละ แต่เรามาเร็วไปนิดนึง ว๊า!! เสียดายแต่ไม่เสียใจ...ไว้ต้องมาอีกรอบ


 
 
 
 
เดินขึ้นน้ำตก 500 เมตร ก็เล่นเอาหอบเหมือนกันน่ะ 555++....ที่สุดท้ายของเรา แค่ได้ยินชื่อก็กระตุกต่อมอยากรู้อยากเหนแล้ว  .....
 
 


ทุ่งกิ๊ก ห่างจากจุดทำการอุทยาน 14 โล ทุ่งกิ๊กก็หมายถึงทุ่งกว้างๆนั่นแหละ เป็นที่สำหรับกางเต้นท์ เหมาะกับนักดูนกเลย เพราะที่นี่จะพบเห็นนกได้ง่าย ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ เช่น เก้ง หมูป่า กระต่ายป่า ระหว่างทางที่มาอาจพบเจอช้างป่าได้ด้วยสังเกตุจากขี้ช้างที่เราเห็นบนถนน 555+++ จะว่าไปก็เหมือนสนามหญ้าหน้าบ้านเราเลยเนอะ แต่ที่ต่างกันก็คือ เราจะได้เห็นสัตว์ป่าได้แบบใกล้ชิดสนิทเนื้อกันเลยที่เดียวล่ะค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!!


 
 
 
 
อช.แม่ปิงยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายที่น่ะ แต่สำหรับแค่ 3 ที่ก็ถือว่าคุ้มแล้ว ..ได้เห็นในสิ่งที่อยากเห็น ได้เห็นในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น.. เราใช้เวลากันทั้งวันจนเย็นย่ำ ได้เวลากับที่พักแล้ว .....
 
วันสุดท้ายของทริปแล้วหล่ะ ก่อนกลับขอแวะไปเที่ยวบ้านห้วยต้มซะหน่อย อยู่ระหว่างเส้นทางไปเถินไม่ไกลจากตัวเมืองลี้ เป็นหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ ถ้ามา "วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม"  ก็จะผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน เราตั้งใจจะไปกินก๋วยเตี๋ยวกัน รสชาตใช้ได้เลย เจ๋งอ่ะ!!
 
วันที่เรามาเป็นวันที่ชาวปกาเกอะญอมีงานรำลึกครูบาวงศา ซึ่งเป็นผู้ที่ชาวปกาเกอะญอเลื่อมใส ศพของครูบาวงศาซึ่งไม่เน่าเปื่อยประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วภายในวิหาร ...
 
 
 
 
 
 
....ได้เวลากลับบ้านแล้วซิน่ะ....
 
 


 
 เส้นทางกลับกรุงเทพ เราต้องผ่านถนนสายลี้-เถิน โค้งคดเคี้ยวทำเอาเวียนหัวกันเลยทีเดียว โค้งส่วนใหญ่จะเป็นโค้งหักศอก เส้นนี้รถใหญ่วิ่งเยอะมาก ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหนก็สามารถเกิดอุบัติเหตุได้เสมอหากเราประมาท....
 
 
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้น่ะค่ะ ทริปหน้าจะไปไหนดีน๊าาาา

...เที่ยวเมืองไทยไปพร้อมๆกับเราน่ะค่ะ....